ประวัติ

ศิริพร อำไพพงษ์ มีชื่อจริงว่า ศิริมา อำเคน มีชื่อเล่นว่า นาง เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2507 มารดาชื่อว่า นางออ อำเคน บิดาชื่อว่า นายกองมี อำเคน แต่เลือกทำพิธีวันที่ 9 มิถุนายน เพื่อให้ชีวิตจะได้ก้าวหน้า เกิดที่บ้านดอนกลอย ตำบลดอนกลอย อำเภอหนองหาน (ปัจจุบันแยกมาเป็นอำเภอพิบูลย์รักษ์) จังหวัดอุดรธานี มีพี่น้องทั้งหมด 10 คน ศิริพรเป็นบุตรสาวคนที่ 7 ครอบครัวมีอาชีพทำนา และมีวงหมอลำด้วยโดยมีคุณพ่อเป็นหมอลำอยู่แล้ว และเป็นผู้สอนให้ศิริพรเป็นหมอลำ เมื่อปี พ.ศ. 2527 เธออยู่กับหมอลำคณะ สุเทพ ดาวดวงใหม่ และได้รู้จักกับ คุณนคร แดนสารคาม และคุณประยูร จันทร์สอน ได้พาไปออกทีวีช่อง 4 จ.ขอนแก่น และคุณดอย อินทนนท์ ได้เห็นแววจึงให้โอกาสอัดเสียงและได้รับการเปลี่ยนชื่อจาก ศิริมา อำเคน เป็น ศิริพร อำไพพงษ์

หลังจากศิริพร อำไพพงษ์ หมดสัญญากับค่าย พีจีเอ็ม เธอได้คิดจะหยุดร้องเพลง และกลับไปทำนาที่บ้านเกิด แต่ครูสลา คุณวุฒิ ได้ชวนให้มาอยู่ค่ายแกรมมี่โกลด์ เมื่อปี 2543 และเปลี่ยนแนวเพลงเป็นลูกทุ่งอีสาน ในตอนแรกบริษัท ได้ปล่อยเพลง หนีแม่มาแพ้รัก ไปตามสถานีวิทยุต่างๆ แต่ว่าเพลงที่มีกระแสอย่างรวดเร็ว กลับเป็นเพลง ปริญญาใจ ทำให้บริษัทต้องเปลี่ยนชื่อและปกอัลบั้มใหม่ เป็นอัลบั้ม ชุดที่ 1 ปริญญาใจ และเพลงนี้ก็ได้ส่งให้ชื่อศิริพร อำไพพงษ์ กลับมาเป็นที่รู้จักและโด่งดังเป็นพลุแตกอีกครั้ง หลังจากอัลบั้มปริญญาใจ เธอก็มีผลงานเพลงออกมาอีกหลายอัลบั้มอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน กับอัลบั้ม ชุดที่ 17 คนใช่ เกิดช้า

ครูสลา คุณวุฒิ ครูเพลงคู่บุญ เคยกล่าวถึงศิริพร ว่า "ศิริพร เป็นนักร้องครบเครื่อง เป็นนักร้องที่ร้องเพลงได้สื่อสาร ร้องเพลงเหมือนไม่ได้ร้องเพลง แต่เหมือนกำลังเล่าเรื่อง ทำให้คนเชื่อ"

ปัจจุบัน เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่าศิริพร เธอเป็นนักร้องสายบุญ โดยเงินที่ได้รับจากแฟนเพลงหน้าเวที เธอจะนำมาทำบุญด้านต่างๆ และเธอมักจะจัดกิจกรรมงานบุญอยู่เสมอ ด้านชีวิตครอบครัว สมรส กับ สุชาติ สุขโมนมหาอุดม ผู้จัดการวงดนตรีศิริมันศิริเคี้ยวศิริมัน

30 กว่าปี ครองใจแฟนเพลง

ศิริพร อำไพพงษ์ ถือเป็นแบบอย่างของการเป็นนักร้องที่ดี ที่นักร้องรุ่นใหม่หลายคนได้ยึดเป็นแบบอย่าง ทั้งการสร้างผลงานเพลง ความสามารถด้านการร้องเพลงทุกรูปแบบ ความตรงต่อเวลา การวางตัวในวงการ การแสดงหน้าเวทีที่พอเหมาะพอดี โดยความเป็นนักร้องดัง แต่ทำตัวเรียบง่าย ไม่ยึดติดกับความดัง ให้ความสำคัญกับแฟนเพลงวางตัวอย่างเป็นกันเอง ชอบทำบุญ และมีผลงานเพลงคุณภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง แนวเพลงหลากหลาย ครอบคลุมผู้ฟังหลายกลุ่ม รวมทั้งการแสดงหน้าเวทีที่สนุกสนาน ทำให้ศิริพร อำไพพงษ์ สามารถครองใจแฟนเพลงมาอย่างยาวนาน ได้มากกว่า 30 ปี

เส้นทางกลอนลำอมตะ "โบว์รักสีดำ"

ปริญญาใจ ปริญญาชีวิต

จากบทสัมภาษณ์ส่วนหนึ่งที่อยู่ในนิตยสาร ‘ออล แม็กกาซีน’ ในคอลัมน์ ปรากฏการณ์อีสานพันล้าน!!ศิริพร อำไพพงษ์ และ ตั๊กแตน ชลดาเมื่อพฤศจิกายน 2558

all : รู้สึกยังไงที่เพลง ‘ปริญญาใจ’ ทำยอดขายได้ถึง 1 ล้านตลับ เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นยอดขายที่สูงมากในสมัยนั้น
ศิริพร : จริง ๆ ขายได้เยอะกว่านี้นะ แต่เขาจะบอกแค่ยอดกลม ๆ คือ หนึ่งล้านตลับ ส่วนตัวพี่เองก็ธรรมดา ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะพี่เป็นนักร้องมานาน ตอนโบว์รักสีดำก็ขายได้ถล่มทลาย ตอนนั้นเกินล้านตลับไปเยอะ พี่ก็เลยเฉย ๆ พี่รู้สึกเหมือนเป็นนักร้องใหม่อยู่เรื่อย (ยิ้ม) ตอนไปลงตลาด ยังไม่มีทีวีเปรี้ยงปร้างแบบนี้ ไปไหนคนก็แตกตื่น มากอด มาหอม มาถ่ายรูป มันก็เลยเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพี่ไปแล้ว ตัวพี่เองจะตื่นเต้นตอนขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ ๆ มากกว่า เพราะพี่ไม่ค่อยยอมขึ้นไปร้องร่วมกับนักร้องคนอื่น พี่เป็นคนขี้อาย ตอนอยู่พีจีเอ็ม ถ้าพี่ไม่ไป นายห้างก็ไม่บังคับ แต่พอมาอยู่แกรมมี่ พี่ไม่อยากไป เขาก็บอก ไม่ได้ (ลากเสียง) เลยค่อย ๆ กล้าขึ้นตามลำดับ (หัวเราะ) เวลาเล่นคอนเสิร์ต ต้องให้ผ่านไปสัก 2 – 3 เพลง ถึงจะพูดล้อเล่นกับคนดูได้ ออกไปแรก ๆ นี่ มือเย็นเจี๊ยบ ขาสั่นพั่บ ๆ เลย เสียงที่แหบอยู่แล้วก็ยิ่งแหบเข้าไปอีก (หัวเราะ) แต่พอเห็นคนดูกรี๊ด หรือร้องตาม มันก็เป็นกำลังใจนะ นักร้องที่ร้องในคอนเสิร์ตทุกงาน ศิริพรร้องได้ขี้เหร่ที่สุด (หัวเราะขำ) เพราะความตื่นเต้นของตัวพี่เองนี่แหละ

all : หลังจากมาเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงแล้ว ชีวิตเปลี่ยนไปขนาดไหนคะ

ศิริพร : ถ้าด้านชีวิตนี่... (นิ่งคิด) เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากชาวไร่ชาวนา ทำไร่ทำนา บ้านป่าขาดอน ได้เข้ามาในกรุงเทพฯ ได้มาเจอคนที่ไม่เคยเจอ สิ่งที่ไม่เคยเจอ จากคนที่ไม่ค่อยมีเงินก็มีเงิน อยากกินอะไรก็ได้กิน เรียกว่าเปลี่ยนทุกอย่าง ทั้งครอบครัวและตัวเอง ก็เพราะความเมตตาของแฟน ๆ ของผู้หลักผู้ใหญ่ในบริษัท ถ้าเขาไม่เมตตาก็คงไม่มีพี่ในวันนี้เหมือนกัน